DATA Trusted POWER
เดินสายไฟในอาคารอย่างไรให้เหมาะกับบ้านแต่ละแบบ และยังปลอดภัยต่อตัวคุณและคนรอบข้าง

วิธีในการเดินสายไฟในอาคารทุกวันนี้ มีวิธีให้เลือกใช้ค่อนข้างหลากหลาย นั่นเป็นเพราะวิธีการแต่ละแบบเหมาะกับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน การพิจารณาและคำนึงถึงความแตกต่างของการเดินสายไฟ รวมถึงข้อดีและข้อเสียของแต่ละแบบ ก็เป็นสิ่งที่คุณควรเอาใจใส่เช่นกัน ส่วนจะมีแบบไหนบ้างที่เหมาะและใช่สำหรับบ้านคุณ ลองไปดูกันเลย
วิธีการเดินสายไฟในอาคารที่ควรพิจารณาให้เหมาะสมกับบ้าน
การเดินสายไฟในอาคารหลัก ๆ แล้ว มีอยู่ทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้
1. การเดินสายไฟแบบเดินลอย หรือยึดติดผนัง
เป็นการต่อวงจรของสวิตซ์ไฟที่ทำได้ง่าย ไม่ค่อยยุ่งวุ่นวายนัก อีกทั้งการเดินสายไฟในอาคารลักษณะนี้ยังทำให้คุณสามารถเช็คคุณภาพ การชำรุด และซ่อมบำรุงเวลาที่เกิดปัญหาขึ้นมาได้ง่าย ยังใช้เงินลงทุนไม่เยอะอีกด้วย ซึ่งการเดินสายไฟแบบนี้ จะใช้กิ๊ฟยึดติดกับผนัง หรือกำแพง เป็นช่วง ๆ ไป จึงทำให้เห็นได้ชัดเมื่อสายไฟนั้นเสื่อมสภาพ โดยส่วนมากจะมีอายุการใช้งานยาวนานประมาณ 15 ปีอีกด้วย แต่ข้อเสียคือ ดูไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย และไม่สวยงามต่อผู้พบเห็นเท่าใดนัก
2. การเดินสายไฟร้อยท่อ แบบฝังในผนัง
เป็นการเดินสายไฟโดยนำสายไฟไปซ่อนในท่อโลหะหรือท่อพลาสติกที่ได้ทำการวางท่อและยึดติดผนังบ้านเอาไว้ ซึ่งการเดินสายไฟในอาคารแบบนี้จะช่วยให้ห้องดูสวย สะอาดตา ตกแต่งห้องได้ง่าย ไม่รกรุงรังกวนสายตาแบบการเดินลอย และยังช่วยยืดอายุสายไฟได้มากเกินา 20 ปี แต่เมื่อมองดูที่ข้อเสียแล้ว กลับพบว่า จะมีความยากลำบากในส่วนของการทำงานในการแก้ไขซ่อมแซม หากว่ามีปัญหาของสายไฟที่ชำรุดเกิดขึ้นในท่อ และยังใช้ต้นทุนค่อนข้างสูง ดังนั้นช่างหลายคนจะมักจะแนะนำให้ทำการร้อยท่อแบบเส้นเดียวตลอดการเดิน และทำการเชื่อมต่อสายในจุดหลักจุดเดียว ซึ่งจะทำให้ตรวจสอบปัญหา และแก้ไขได้ง่ายกว่า แต่ก็ต้องยอมสิ้นเปลืองสายไฟมากกว่า
3. การเดินสายไฟแบบร้อยท่อเดินลอย
การเดินสายไฟในอาคารในลักษณะนี้ เป็นการแก้ไขข้อเสียในสองแบบข้างต้น ซึ่งจะเปรียบเสมือนการนำทั้งแบบแรกและแบบที่สองมาผสมผสานกัน แต่วิธีการนี้จะเน้นไปที่การไม่ต้องฝังท่อลงไปในผนัง โดยจะใช้ท่อเดินติดผนังไปเลย ซึ่งนับว่าเป็นวิธีการยอดนิยมที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินระบบไฟนั้นแนะนำ เนื่องจากง่าย สะดวก ค่าใช้จ่ายไม่สูง ใช้เวลาน้อย เวลาสายไฟพังหรือชำรุดก็พบเห็นง่าย ซ่อมและบำรุงได้ง่าย ปลอดภัย และอยู่ได้นานกว่า 30 ปีเลยทีเดียว
ข้อควรรู้เกี่ยวกับท่อสายไฟ ที่เป็นส่วนหนึ่งในการเดินสายไฟในอาคาร
1. ท่อโลหะ จะมีราคาแพงกว่าท่อแบบพลาสติก แต่ทนทาน และมีอยู่ 5 แบบ คือ ท่อโลหะแบบบาง แบบกลาง แบบหนาพิเศษ แบบโลหะอ่อน และแบบโลหะอ่อนที่มี PVC หุ้มด้านนอก จึงทำให้สามารถกันน้ำได้
2. ท่อพลาสติก มีอยู่ทั้งหมด 3 แบบ คือ ท่อ PVC, ท่อ HDPE และท่อ EFLEX
การเดินสายไฟในอาคารนั้นหลัก ๆ ก็จะนิยมใช้วิธีดังที่เราได้พูดถึงไปแล้ว แม้จะมีอยู่หลากหลายแบบก็จริง แต่การเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสถานที่ของคุณ การคำนึงถึงความปลอดภัย และวิธีที่ใช้ในการดูแลรักษา ก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงไม่น้อยไปกว่าเรื่องราคา และความง่ายในการดำเนินการเพียงอย่างเดียว