เคล็ดลับการเลือกสายปลั๊กไฟให้เหมาะกับการใช้ในแต่ละงาน

เราคงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ล้วนมีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวันของเราอย่างมาก ไม่เว้นแม่แต่สายปลั๊กไฟที่เรารู้จักกันดี เพราะต้องหยิบใช้งานอยู่ทุกวัน ซึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ นั้นนอกจากจะให้ประโยชน์ช่วยอำนวยความสะดวกแล้ว ก็ยังสามารถให้โทษและอันตรายได้ หากเรามีการใช้งานที่ไม่ถูกวิธีหรือใช้งานผิดประเภท รวมไปถึงการนำเอาอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานเข้ามาใช้ การติดตั้งที่ไม่ได้ติดตั้งด้วยช่างไฟหรือผู้เชี่ยวชาญด้านไฟฟ้า

ซึ่งวันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกสายปลั๊กไฟอย่างไร ให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละงานมาฝากกัน ทั้งนี้เพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น และเพื่อความปลอดภัย ป้องกันอันตรายต่าง ๆ จากไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าช๊อต เคล็ดลับนั้นมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

เคล็ดลับง่าย ๆ ในการเลือกสายปลั๊กไฟ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

1.การใช้งานในอาคารบ้านเรือน

ต้องเลือกสายปลั๊กไฟที่มีแรงดันไฟฟ้าต่ำ เป็นสายหุ้มฉวนที่ใช้ทองแดงหรืออลูมิเนียมเป็นตัวนำไฟฟ้า เลือกขนาดให้เหมาะสมกับการใช้งาน และสามารถทนแรงดันไฟฟ้าได้ดีที่ 300-750 โวลต์ ตามมาตรฐาน มอก. 11-2531 ที่ใช้ในบ้านเรือน เช่น สาย VAF แบบ 2 แกน 3 แกน มีทั้งสายเดี่ยว สายคู่ โดยนิยมใช้ร่วมกับสายดิน เพื่อความปลอดภัย และสาย IV ที่ใช้กับระบบ 1 เฟส โดยห้ามนำไปใช้กับระบบ 3 เฟส

2.การใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม

ต้องเลือกสายปลั๊กไฟที่ทนต่อแรงดันไฟฟ้าได้ถึง 750 โวลต์ ที่นิยมใช้กัน เช่นสาย THW เป็นชนิดสายเดี่ยว สามารถใช้ร่วมกับวงจรระบบ 3 เฟส ที่มีแรงดัน 380โวลต์ได้

3.การใช้งานนอกอาคารหรือที่โล่งแจ้ง

ควรเลือกเป็นแบบ NYY ที่ทนต่อแรงดัน 750 โวลต์ มีเปลือกหุ้มฉนวน 3 ชั้น ทนต่อสภาพแวดล้อมภายนอกได้ดี

สายปลั๊กไฟที่ออกแบบมาเฉพาะ สำหรับกำลังไฟฟ้ามาก ๆ

4.ใช้กับเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ไฟฟ้า

จะต้องเลือกเป็นแบบ VCT ที่มีคุณสมบัติเด่น คือ มีความอ่อนตัว เพราะประกอบด้วยทองแดงเส้นเล็ก ๆ จำนวนมากมารวมกันเป็นแกน ทนต่อแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือนได้ดี จึงเหมาะที่จะเป็นสายปลั๊กไฟที่ต่อเข้ากับเครื่องจักรที่มีการสั่นสะเทือนขณะเครื่องทำงาน

5.ใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง

ต้องเลือกสายปลั๊กไฟที่ทนต่อไฟฟ้าแรงสูง โดยสายมีขนาดใหญ่ มีทั้งแบบสายเปลือย เช่น อลูมิเนียมตีเกลียวเปลือย AAC, อลูมิเนียมผสม AAAC และสายแบบหุ้มฉนวน เช่นสาย PIC, PAC, SAC, XLPE เป็นต้น

และทั้งหมดนี้ก็เป็นเคล็ดลับของความปลอดภัย ในการนำสายปลั๊กไฟไปใช้งานได้อย่างเหมาะสม และถูกต้องกับงานแต่ละประเภท นอกจากความปลอดภัยแล้วยังได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้งาน ช่วยประหยัดพลังงาน ลดอันตรายและความเสียหายต่าง ๆ จากการใช้ไฟฟ้า เช่นไฟฟ้าลัดวงจรจนเกิดเพลิงไหม้

ดังนั้นการป้องกันที่ต้นเหตุ จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดกว่าการไปแก้ที่ปลายเหตุ เราทุกคนจึงควรใส่ใจเกี่ยวกับการใช้สายปลั๊กไฟต่าง ๆ อย่างถูกหลักเกณฑ์