DATA Trusted POWER
วิธีต่อสายไฟในบ้าน มีกี่แบบ อย่างไหนเหมาะกับบ้านของคุณ

สำหรับใครก็ตามที่กำลังจะเริ่มต้นสร้างบ้านหลังใหม่ หรือกำลังจะติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เราจะชวนคุณมาดูว่าวิธีต่อสายไฟในบ้านมีกี่แบบ เพื่อให้คุณมีแนวทางในการพิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการ
วิธีต่อสายไฟในบ้านในแบบที่ยุคปัจจุบันนิยมเลือกใช้
วิธีต่อสายไฟในบ้านแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ เดินสายไฟบนผนัง (แบบเดินลอย) และการเดินสายไฟแบบฝังในผนัง โดยร้อยผ่านท่อสายไฟที่ฝังอยู่ในผนัง
- วิธีต่อสายไฟในบ้านแบบเดินลอย
หรือภาษาช่างบางคนเรียกว่า “ตีกิ๊บ” เป็นการเดินสายไฟให้ติดกับผนังบ้านหรือเสาบ้าน แล้วเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น ปลั๊กไฟ สวิตซ์ไฟฟ้า และโคมไฟ มีข้อดีคือมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าแบบเดินท่อ สามารถตรวจสอบและซ่อมแซมง่าย เพราะมองเห็นได้ด้วยสายตา แต่ก็มีข้อเสียคือ ถ้าได้ช่างทำงานไม่เรียบร้อยหรือมีเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก จะทำให้ดูรกเต็มผนังบ้านเลยทีเดียว ในปัจจุบันเลยมีการเดินลอยแบบใช้ท่อพีวีซีหรือท่อเหล็กเพิ่มเติมขึ้นมาเพื่อให้งานดูเรียบร้อยขึ้น และทำให้กลายเป็นการตกแต่งแบบสไตล์โมเดิร์นหรือลอฟท์ (Loft)
- วิธีต่อสายไฟในบ้านแบบฝังผนัง
เป็นการเดินสายไฟโดยร้อยสายผ่านท่อสายไฟที่ฝังอยู่ในผนัง คุณคงพอจะเดาได้ว่าข้อดีของวิธีนี้ คือ ดูเรียบร้อยไม่รกสายตา และดูปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้ารั่ว แต่ข้อเสียก็คือหากเกิดปัญหาต้องซ่อมแซม การตรวจสอบจะทำได้ยากกว่า และบางกรณีจำเป็นต้องทุบผนัง ในกรณีที่สายไฟเกิดการชำรุดในจุดที่อับสายตา อาจเกิดอันตรายจากไฟรั่วได้ ถ้าจุดนั้นไปติดกับส่วนที่เป็นโลหะเข้า
ท่อร้อยสายไฟ ที่ช่างส่วนใหญ่นิยมใช้สำหรับวิธีต่อสายไฟในบ้านแบบเดินท่อ
ท่อร้อยสายไฟสำหรับบ้านพักอาศัยนั้น ส่วนใหญ่จะเลือกใช้แบบท่อพีวีซี ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นฉนวนไฟฟ้าและไม่ติดไฟ ดังนั้นหากเกิดไฟรั่ว ก็ยังทำให้ปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้าได้ ท่อพีวีซี มี 2 แบบแยกตามสี คือ
- ท่อสีเหลือง
เหมาะสำหรับวิธีต่อสายไฟในบ้านแบบฝังท่อในผนัง โดยติดตั้งก่อนฉาบปูนปิดผิวหน้า เวลาใช้งานก็ดูให้มีตรามาตรฐานการผลิตอุตสาหกรรมเลขที่ มอก. 216-2524
- ท่อสีขาว
เหมาะสำหรับเดินท่อลอยบนผนัง ท่อชนิดนี้จะง่ายเวลาต่อเติมบ้านเพราะมีสีขาวจึงไม่ต้องทาสีทับ ดัดโค้งได้ 90 องศา ทำให้ประหยัดข้อต่อ
- ท่อโลหะสำหรับร้อยสายไฟ เ
มื่อก่อนมักจะใช้ในอาคารสูง อย่างเช่น อาคารสำนักงานหรือคอนโดมิเนียม แต่ปัจจุบันบ้านพักอาศัยก็นำมาใช้เป็นวิธีต่อสายไฟในบ้านแบบเดินท่อลอย ตามรสนิยมการตกแต่งแบบสไตล์ลอฟท์ (Loft) หรือโมเดิร์น มีทั้งแบบบาง (EMT) แบบหนา (IMC) แบบหนาพิเศษ (RSC) และแบบท่อโลหะอ่อน (FMC) เป็นต้น
หากเราจะสรุปกันอีกครั้ง วิธีต่อสายไฟในบ้านแบบตีกิ๊บมีราคาถูกที่สุด แต่ช่างไฟฟ้าที่ทำต้องมีประสบการณ์สูง และมีความประณีตในการติดตั้ง ซึ่งในปัจจุบันถือว่าเหลือน้อยคนคงไปเต็มที ส่วนแบบฝังในผนังนั้นต้องเพิ่มงบประมาณที่สูงกว่ามาก และต้องวางแผนตั้งแต่ก่อนก่อสร้าง โดยช่างไฟและช่างปูนจะต้องประสานงานร่วมกันด้วย ส่วนวิธีเดินลอยแบบใช้ท่อร้อยสาย ในปัจจุบันนั้นได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะสามารถใช้เป็นช่องทางในการตกแต่งบ้านเพิ่มเติมได้ และดูเรียบร้อยกว่าการตีกิ๊บอยู่มาก และสุดท้ายก็ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับคุณเองที่จะตอบได้ว่า “วิธีไหนเข้ากับบ้านคุณที่สุด”