การผลิตปลั๊กไฟใช้วัสดุอะไร ของถูกหรือแพงแตกต่างกันไหม

สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากที่มีใช้กันในบ้านเรือน รวมไปถึงออฟฟิศสำนักงานต่าง ๆ ก็คือ ปลั๊กไฟ เชื่อเลยว่าคนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าปลั๊กไฟจะเลือกใช้แบบไหนก็ได้ก็คงเหมือน ๆ กัน ยิ่งโดยเฉพาะปลั๊กพ่วงที่มีวางขายกันทั่วไปในบ้านเรา แค่เรารู้สึกว่ามีความจำเป็นต้องใช้ปลั๊กพ่วง เราก็จะซื้อกันมาโดยมักไม่ค่อยใส่ใจว่า แบรนด์ไหนยี่ห้ออะไร และภายในผู้ผลิตเขาออกแบบมาดีแค่ไหน ใช้วัสดุอะไรบ้างในการทำ ซึ่งครั้งนี้เราจะมาชี้ให้เห็นว่า ผู้ผลิตปลั๊กไฟที่ได้มาตรฐานนั้น เขาเลือกใช้วัสดุอะไรในการผลิต เพื่อให้ได้ปลั๊กไฟที่ปลอดภัย ไปติดตามกัน

การผลิตปลั๊กไฟที่ได้คุณภาพต้องเลือกใช้วัสดุนำไฟฟ้าชั้นดี

ปลั๊กไฟต่าง ๆ จะดูคุณภาพอย่างแรกเลยต้องดูเรื่องการนำไฟฟ้า อย่างที่เราพอทราบกันตามหลักวิทยาศาสตร์เรื่องของโลหะที่นำไฟฟ้า วัสดุที่นำไฟฟ้าได้ดีที่สุดก็คือ “เงิน” แต่เนื่องจากโลหะชนิดนี้ ราคาสูงและมีค่าออกไซด์ในตัวเองสูง จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาใช้ผลิตปลั๊กไฟ หากนำมาใช้งานงานก็จะเกิดคราบดำได้ง่ายเพราะมีค่าออกไซด์สูงนั่นเอง นั่นจึงกลายเป็นว่า “ทองแดง” ถูกยกขึ้นมา ให้เป็นวัสดุที่นำไฟฟ้าได้ดีที่สุด รองลงมาก็คือ “ทองเหลือง” (ทองเหลืองเกิดจากการนำทองแดงไปผสมกับสังกะสี)

เนื่องจากทองแดง คือวัสดุที่ดีที่สุดในการนำไฟฟ้า บริษัทผู้ผลิตปลั๊กไฟชั้นนำต่าง ๆ นั้น จึงนำทองแดงมาใช้ผลิตเป็นตัวรับไฟฟ้าภายในของปลั๊กไฟ แต่เนื่องจากการใช้ทองแดงมาผลิตจะทำให้ราคาของปลั๊กไฟมีราคาสูงเกินไป เพราะทองแดงค่อนข้างแพง บริษัทผู้ผลิตต่าง ๆ จึงมีการลดสเปคลงมาบ้างในบางรุ่นก็จะใช้ทองเหลืองในการผลิตแทน และวางจำหน่ายในราคาที่ลดหลั่นกันมา ในส่วนภายนอกนั้นบริษัทผู้ผลิตปลั๊กไฟส่วนใหญ่ก็จะเลือกใช้วัสดุที่ไม่ติดไฟเป็นส่วนประกอบภายนอก ซึ่งนั่นก็คือ พลาสติกประเภทโพลีคาร์บอเนต ที่มีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดี มีความเหนียวและยืดหยุ่น พลาสติกชนิดนี้ปัจจุบันมีใช้กันหลากหลาย ทั้งการนำไปผลิตเป็นกระจกของหน้าจอมือถือ ทำกระจกหน้าของหมวกกันน็อค และอื่น ๆ อีกมากมาย

ปลั๊กไฟของถูกของแพงแตกต่างกันแค่ไหน

การเลือกซื้อปลั๊กไฟมาใช้งานไม่ว่าจะใช้ภายในบ้านหรือใช้ในที่ทำงานก็ตาม ที่ควรจะต้องตระหนักใส่ใจเลยก็คือ ต้องเลือกปลั๊กที่ได้คุณภาพและมีมาตรฐานมอก. แน่นอนว่าปลั๊กไฟที่มีราคาแพงย่อมมีคุณภาพและได้มาตรฐานการใช้งานมากกว่าปลั๊กไฟที่มีราคาถูก อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่าผู้ผลิตแบรนด์ชั้นนำที่วางใจได้นั้น จะเลือกทองแดงหรือทองเหลืองมาใช้เป็นวัสดุนำไฟฟ้าด้านใน ส่วนด้านนอกก็จะมีการเลือกใช้พลาสติกประเภทโพลีคาร์บอเนต แต่ถ้าเป็นผู้ผลิตทั่วไปที่มีอยู่มากมายนั้น ส่วนใหญ่จะเลือกผลิตปลั๊กไฟแบบลดต้นทุน ด้านในใช้เหล็กชุบสีไม่ใช่ทองแดงหรือทองเหลืองอย่างที่เห็น ส่วนด้านนอกก็จะเลือกใช้พลาสติกราคาถูกอย่างพวก PVC คุณภาพต่ำกว่าเพื่อลดต้นทุนการผลิต ซึ่งแน่นอนเลยว่าด้านคุณภาพการใช้งานก็ย่อมด้อยกว่าอยู่แล้ว เพราะการนำไฟฟ้าเทียบกันไม่ได้ คงไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยเลย เพราะสินค้าไม่มีคุณภาพเช่นนี้ใช้ไปย่อมมีความเสี่ยงอย่างแน่นอน ยิ่งหากนำมาใช้เสียบกับคอมพิวเตอร์หรือเครื่อง Server ล่ะก็ยิ่งแย่ใหญ่ ไม่มีใครรับประกันได้เลยว่าไฟจะตก หรือตัวปลั๊กจะไหม้เมื่อไหร่ ตรงนี้จึงอยากจะแนะนำว่าให้เลือกใช้จากแบรนด์ชั้นนำจะอุ่นใจมากกว่า

อย่างไรก็ดี นั่นไม่ได้หมายความว่าบริษัทผู้ผลิตปลั๊กไฟชั้นนำจะไว้วางใจได้เสมอไปหรือคุณต้องเลือกใช้ของแพงตลอด เพราะปัจจุบันก็มีหลายแบรนด์ผู้ผลิตจากต่างประเทศไม่ผ่านมาตรฐาน มอก. ใหม่ในบ้านเราในเรื่องนี้เหมือนกัน ดังนั้นจะเลือกใช้แบบไหน ถูกหรือแพงก็คงต้องดูลักษณะการใช้งานกันมากกว่า หากจำเป็นต้องใช้งานหนัก เสียบปลั๊กอยู่ตลอดเวลา ก็ควรเลือกปลั๊กที่ได้มาตรฐานมอก. ใหม่ของไทย แม้จะราคาสูงไปบ้างแต่เพื่อความปลอดภัยแล้วก็ถือว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน